นับตั้งแต่เรือเด่นสุทธิประจำการใน พุทธศักราช ๒๕๔๐
ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่งมาโดยตลอด
และเพื่อเป็นการสนองพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า
ได้ต่อเรืออเนกประสงค์ขึ้นอีกหนึ่งลำมีขนาดใหญ่กว่าเรือเด่นสุทธิ
สำหรับเป็นเรือขจัดคราบน้ำมัน
และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลลำที่ ๒
มีขนาด ๒๙๓.๕๓ ตันกรอส ความยาว ๔๑.๘๕ เมตร
ความกว้างกลางลำ ๘ เมตร
กินน้ำลึก ๒.๒๐ เมตร ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า ๘ นอต
มีห้องเก็บเสบียงอาหารและน้ำจืดเพียงพอ
สำหรับปฏิบัติงานในทะเลได้ไม่น้อยกว่า ๗ วัน
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานนามอันเป็นมงคลแก่เรือลำนี้ว่า “ชลธารานุรักษ์”
ตลอดจนได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจิมป้ายชื่อเรือเพื่อความเป็นสิริมงคล
เมื่อวันจันทร์ ที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
เรือชลธารานุรักษ์ มี “ภารกิจหลัก” ในการขจัดคราบน้ำมัน
ช่วยดับเพลิงในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ตลอดจน “ภารกิจเสริม” ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
ในสภาวะปกติ ยังใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมบุคลากร
ให้มีความรู้ความเข้าใจและมีประสบการณ์
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ
เรือชลธารานุรักษ์
นับตั้งแต่เรือเด่นสุทธิประจำการใน พุทธศักราช ๒๕๔๐
ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่งมาโดยตลอด
และเพื่อเป็นการสนองพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า
ได้ต่อเรืออเนกประสงค์ขึ้นอีกหนึ่งลำมีขนาดใหญ่กว่าเรือเด่นสุทธิ
สำหรับเป็นเรือขจัดคราบน้ำมัน
และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลลำที่ ๒
มีขนาด ๒๙๓.๕๓ ตันกรอส ความยาว ๔๑.๘๕ เมตร
ความกว้างกลางลำ ๘ เมตร
กินน้ำลึก ๒.๒๐ เมตร ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า ๘ นอต
มีห้องเก็บเสบียงอาหารและน้ำจืดเพียงพอ
สำหรับปฏิบัติงานในทะเลได้ไม่น้อยกว่า ๗ วัน
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานนามอันเป็นมงคลแก่เรือลำนี้ว่า “ชลธารานุรักษ์”
ตลอดจนได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจิมป้ายชื่อเรือเพื่อความเป็นสิริมงคล
เมื่อวันจันทร์ ที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
เรือชลธารานุรักษ์ มี “ภารกิจหลัก” ในการขจัดคราบน้ำมัน
ช่วยดับเพลิงในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ตลอดจน “ภารกิจเสริม” ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
ในสภาวะปกติ ยังใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมบุคลากร
ให้มีความรู้ความเข้าใจและมีประสบการณ์
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ
สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
เลขที่ ๓๘ ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐