กระทรวงคมนาคมมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐาน
การให้บริการท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา
ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือท่าช้าง และท่าเรือสาทร
ให้เป็น “ท่าเรืออัจฉริยะ” หรือ “Smart Pier”
ที่มีความสวยงาม ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย
ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
รองรับการใช้ชีวิตแบบ “วิถีปกติใหม่” หรือ “NEW NORMAL”
พร้อมสำหรับเป็น “แลนด์มาร์ค” ของการเดินทางยุคใหม่
ที่เชื่อมต่อกับการเดินทางรูปแบบอื่นได้อยางไร้รอยต่อ
ควบคู่ไปกับส่งเสริมการใช้ “พลังงานสะอาด”
ด้วยการยกระดับคุณภาพเรือโดยสาร
เป็น “เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า” หรือ “เรือ EV”
ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย
ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

พัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ ๓
เป็นท่าเรือชั้นนำของโลก
ทันสมัยด้วยระบบเทคโนโลยีการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์
แบบ Automation
เพิ่มขีดความสามารถรองรับสินค้าได้ถึง ๑๘ ล้านตู้คอนเทนเนอร์ ต่อปี
พร้อมเชื่อมโยงการขนถ่ายสินค้าทางรถไฟ
ผ่าน “ท่าเรือบก” (Dry port) ทั้ง ๔ แห่ง
ได้แก่ ท่าเรือบกจังหวัดฉะเชิงเทรา ท่าเรือบกจังหวัดขอนแก่น
ท่าเรือบกจังหวัดนครราชสีมา และท่าเรือบกจังหวัดนครสวรรค์ ได้ในอนาคต
เพิ่มสัดส่วนปริมาณการขนส่งจากระบบรางเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง
ช่วยลดต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์
รวมทั้งยกระดับเป็น “ท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์” (E-Port)
ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เปิดประตูการค้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV
ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม และทางตอนใต้ของจีน
เพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางทะเล
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้
กระจายโอกาสการพัฒนา
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
พร้อมส่งเสริมให้ไทยเป็น “ศูนย์กลาง” การขนส่งสินค้าทางทะเลของภูมิภาค

กระทรวงคมนาคมเดินหน้าศึกษา
การจัดตั้ง “สายการเดินเรือแห่งชาติ”
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งทางทะเล
ทั้งการนำเข้าและส่งออก
ช่วยส่งเสริม “โครงการแลนด์บริดจ์”
ให้มีความต้องการในการขนส่งสินค้ามากขึ้น
โดยแนวทางการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติเบื้องต้น แบ่งเป็น ๒ ระยะ
ระยะแรก เปิดให้บริการการเดินเรือภายในประเทศ
มุ่งเน้นการเดินเรือในอ่าวไทย
ระยะต่อไป เปิดให้บริการการเดินเรือระหว่างประเทศ
ทั้งทางฝั่งตะวันออก ตั้งแต่กัมพูชา เวียดนาม
เกาหลีใต้ จีนทางตะวันออก ไปจนถึงญี่ปุ่น
และทางฝั่งตะวันตก ตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา
ตะวันออกกลาง แอฟริกา ไปจนถึงยุโรป
การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ
จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เจริญก้าวหน้า
เพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนา
“การคมนาคมขนส่งทางน้ำ”
ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์
เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
ยกระดับสู่การเป็น
ศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ทางทะเลของภูมิภาค

เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่ทะเลอันดามัน
ด้วยการพัฒนาเส้นทางเดินเรือ
และพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวที่สำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง
ท่าเรือท่าเลน จังหวัดกระบี่ ท่าเรือช่องหลาด จังหวัดพังงา
ท่าเรือมาเนาะห์ และท่าเรืออ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต
เชื่อมโยง ๔ จังหวัดภาคใต้
เป็นเส้นทางท่องเที่ยว “วงแหวนอันดามัน”
“ตรัง-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต”
ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง
เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย
แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
สนับสนุนให้ประเทศไทย
เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลของภูมิภาค